วิธีการเรียนของผม(私の学習法)
■ナッタポン・カムセーンラート ณัฐพล คำแสนลาศ JET日本語学校 卒業 現在国立金沢大学在学中 การศึกษาภาษาญี่ปุ่น โรงเรียน JET ACADEMY ปัจจุบัน กำลังศึกษาปริญญาตรีอยู่ที่มหาวิทยาลัย Kanazawa |
![]() |
คัดคันจิวันละ1หน้าเป็นเวลา 1ปีครึ่ง
การเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยระยะเวลาเพียงแค่1ปีครึ่งแล้วสอบวัดระดับภาษา ญี่ปุ่นผ่านระดับ N1 เป็นเรื่องอะไรที่ดีใจมากๆ ในตอนแรกที่มาญี่ปุ่นรู้เพียงแค่ตัวอักษรฮิรางานะและคาตาคานะเท่านั้น หลังจากนั้นอีก 6 เดือน ก็เรียนไวยกรณ์จากหนังสือ "มินนะ โนะ นิฮงโกะ" และเรียนคันจิตัวง่ายๆ เมื่อจบคลาสเรียนชั้นต้นความรู้ทางภาษาก็อยู่ที่ประมาณ N4 หลังจากนั้นในช่วงปิดภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิก็เรียนไวยกรณ์ คำศัพท์ และคันจิในระดับ N3
พอเปิดเทอมมาก็ได้เข้าเรียนที่คลาสสำหรับนักเรียนที่จะศึกษาต่อที่ประเทศ ญี่ปุ่น ในคลาสนี้จะได้เรียนไวยกรณ์ในระดับ N2 และ N1 แต่เนื่องจากผมยังไม่สามารถเข้าใจและใช้ ไวยกรณ์ N3 ได้ดีเท่าที่ควร จึงทำให้ต้องเรียนเสริมในช่วงบ่ายของวันที่ไม่มีคลาส ในตอนนั้นเมื่อรวมกับเวลาเรียนในคลาสแล้ว 1 วัน ใช้เวลากับการเรียนมากกว่า 10 ชั่วโมง หลังจากเลิกเรียนแล้วกลับหอพักไปก็พักผ่อนและทานอาหารค่ำ หลังจากนั้นก็ทำการบ้านและเรียนด้วยตัวเองจนถึงประมาณเที่ยงคืนถึงเข้านอน
ส่วนวิธีการเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ทำต่อเนื่องมาตลอด 1 ปีครึ่ง และจะทำทุกวันไม่ว่าจะเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ปิดเทอมภาคฤดูร้อน หรือแม้แต่ในวันปีใหม่นั้นก็คือการคัดคันจิวันละ 1 หน้า ในหนึ่งวันผมจะจำคันจิและคำศัพท์ใหม่ ประมาณ 3 คำ และการฝึกฝนการอ่านก็จะทำข้อสอบย้อนหลังในปีเก่าๆ ที่ได้รับจากคุณครูรวมถึงการอ่านหนังสือพิมพ์ทุกเช้า นอกจากนี้ในระหว่างที่เรียนอยู่ภายในคลาสได้มีการจัดแคมเปญ "อ่านหนังสือกันเถอะ 100 เล่ม" ขึ้น เพื่อเพิ่มความเร็วและทักษะในการอ่านให้กับนักเรียนทุกคนในคลาส ส่วนการฝึกฝนเรื่องการฟังก็จะเหมือนกันการอ่านคือทำข้อสอบเก่า
นอกจากนี้ในระหว่างทำการบ้านหรืออยู่ที่ห้องนอนก็จะเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้ตลอด จะทำให้ได้ฝึกฝนการฟังตลอดเวลา และสำหรับผมอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอื่นๆพัฒนาก็คือ การนำความรู้ที่ได้เรียนไปมาใช้จริง ด้วยพื้นฐานนิสัยของผมที่เป็นคนยิ้มเก่ง และชอบพูดคุยกับคนอื่นๆ เลยทำให้ได้ใช้ภาษามาพูดคุยกับคนญี่ปุ่นโดยไม่ค่อยเขินอาย และด้วยเหตุนี้ผมคิดว่ามันทำให้ภาษาของผมพัฒนาเพิ่มมากขึ้น
≪翻訳≫
毎日漢字1ページ書き続けた1年半
1年半ぐらい日本語を勉強して、日本語能力試験のN1に合格したのはとてもうれしい事だった。日本に来た時、ひらがなとカタカナしかできなかった。そのときから6か月間『みんなの日本語』にある文法を勉強して、易しい漢字を勉強した。初級クラスはN4ぐらいできた。その後春休みの時にN3の文法、文字・語彙を勉強した。
進学クラスに入ると、N2とN1の勉強だった。しかし私はN3の文法はまだうまく使えないので、午後の授業のない日に山口先生とN3の勉強をした。そのときはクラスの勉強の時間を含めて、1日の勉強の時間は10時間以上だった。家に帰ってから、ゆっくり休んだりご飯を食べたりして、その後12時ぐらいまで宿題と自習をした。
1年半続けた日本語の勉強方法は、毎日1ページ漢字を書くこと。1日に3つぐらい漢字と語彙を覚えた。土曜日も日曜日も夏休みもお正月も続けた。読解の勉強は毎日宿題として先生から過去問題を与えられて、毎朝新聞を読んだ。さらに、早く読めるようになるために、「100冊読もう!キャンペーン」がAクラスの中で行われて、そのことも1つの読解の練習だった。(註:Aクラスの中でナッタポンさんだけ100冊読破した。) 聴解の勉強も授業で過去問題をやったほか、家でテレビを流して、宿題などをやった。
私にとってはもう一つ大きかったことがある。何語の勉強でも必要なことだ。それは勉強した知識を実際に使うことだ。私はいつも笑って、よくしゃべる性格の人だから、たくさんの人と日本語でしゃべって、日本語の力が上達したと考えている。